Unit type: general purpose close combat mobile suit
Overall height: 18.3 meters
Overall weight: 57.2 metric tons
Equipment: GN Drive, Trans-Am system
Armament: GN sword/rifle x 1, GN long blade x 1, GN short blade x 1, GN beam saber x 2, GN beam dagger x 2, GN vulcan gun x 2, GN shield x 1
Pilot: Setsuna F. Seiei (aka Soran Ibrahim)
1 ใน 4 กันดั้มของ Celestial Being ซึ่งตัว Exia นั้น ถูกพัฒนามาเพื่อทำการรบในระยะประชิดโดยเฉพาะ อาวุธหลักนั้นเป็น ดาบทั้ง 7 เล่ม ส่วนอาวุธยิงนั้นมีเพียง GN vulcan gun และ GN rifle ที่ติดตั้งอยู่บน GN sword เท่านั้น
GN long blade และ GN short blade เก็บไว้ที่ข้างเอว ตรงนี้จะมีจุดเชื่อมเป็ยแบบก้านบอลจอยด์ ทำให้ถึงจะติดดาบลงไป ก็ยังขยับขาได้อย่พอสมควรครับ
แสงจากเตา GN หลอดไฟ LED ที่ให้มาพอเปิดแล้วก็ดูสว่างเอาเรื่องเลยนะครับ
โมเดลระดับ MG แล้ว เปิดห้องนักบินไม่ได้สิแปลก เพราะงั้นต้องเปิดได้แน่นอนครับ
GN sword ส่วนคมดาบชุบสีเงินมาให้
GN beam saber กับ GN beam dagger นั้นด้ามดาบเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงชิ้นใสที่มีขนาดสั้น-ยาวไม่เท่ากันครับ
ดาบที่อยู่ด้านหลังพับได้ 2 จังหวะ (ขึ้น-ลง,ซ้าย-ขวา) ทำให้เอื้อมมือมาจับได้เลย
GN long blade และ GN short blade 2 อันนี้คมดาบก็ชุบเงินมาให้ครับ
GN shield กางและหุบได้ ส่วนระบบติดที่แขนก็เหมือนกับ 1/144 และ 1/100 ครับ ก็ดูแข็งแรงดี ไม่หลวม ไม่หลุด
GN sword/rifle ปรับการทำงานได้ 2 โหมด (ก็แค่พับดาบไปมาเท่านั้นเองนิ)
ชิ้นส่วนพิเศษที่มีมาให้ในเฉพาะกล่อง Ignition Mode ครับ สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนทำเป็น Exia Repair ที่ปรากฏตัวในช่วงต้นของ S2 ได้ด้วย
ซึ่งหลักๆ ที่เปลี่ยนก็จะมีใบหน้าซีกขวา และส่วนแขนซ้ายที่เป็นผ้าคลุม นอกนั้นส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีถอดเกราะโชว์โครงในเอาครับ
ด้านหลังในสภาพถอดเตาออก
ใบหน้าที่โชว์เครื่องจักรภายใน
เกราะข้างเอวที่หายไปส่วนนึง
ใต้ผ้าคลุมนั้นไม่มีแขนนะครับ แต่ส่วนผ้าคลุมทำมาเป็น 2 ชั้น แต่ล่ะชิ้นขยับได้ด้วยบอลจอยด์ครับ
เมื่อไม่ได้ใส่เตา ก็จะมองทะลุชิ้นใสไปเลย (จะเห็นเทคโนโลยีกสนฉีดชิ้นใส ลายตัวอักษรที่หน้าอกทำมาได้ละเอียดมากเลย
มีฐานวางเตา GN มาให้ด้วย มีไฟ 2 จุด ทั้งด้านหลังและด้านหลังครับ
ด้านหลังเมื่อเปิดไฟ จะเห็นชิ้นจักกลภายในชิ้นใสด้วย สวยดี
ตัว GN sword ในร่าง Repair จะเป็นดาบหักนะครับ จริงๆ ในกล่องก็มีดาบหักมาให้ด้วย แต่พอดีเป็นงานลูกค้า จะให้แกะๆ ถอดๆ เดี๋ยวสีถลอกพอดี เลยขอล่ะไว้ละกันครับ แฮะๆ
มีชิ้นที่แสดงความเสียหายของตัว GN sword มาให้ด้วยนะ (ชิ้นสีขาวน่ะครับ)
เปรียบเทียบกับ 1/144 HG ที่เคยทำก่อนหน้านี้ครับ สูงใหญ่ และสัดส่วนสวยกว่าทีเดียว
มาปิดท้ายกันที่สีเช่นเคยครับ สีที่ใช้ ผมก็ใช้สีที่ใช้ทำกันดั้มบ่อยๆ นั้นแหละครับ
ขาว - ใช้สีรองพื้นเทาเบอร์ 1000 เป็นสีพื้น แล้วพ่นไล่ด้วยขาวกระป๋องเลย์แลนด์
แดง - พ่นสีเทา 116 เป็นพื้นก่อน แล้วจึงพ่นไล่ด้วยสีขาว สาดตบท้ายด้วยแดง 108
เทา - เทา 116
เหลือง - เหลือง 4 + เหลือง 109 + ขาวนิดหน่อย
น้ำเงิน - พ่นสีน้ำเงิน 71 เป็นพื้นก่อน แล้วจึงพ่นไล่ด้วยสีขาว สาดตบท้ายด้วยน้ำเงิน 80
งานคราวนี้ มาเล่น MG บ้างครับนี่เป็นงานของลูกค้าที่มาให้ผมทำสีให้น่ะ ไม่ใช่ของตัวหมึกแดงเองหรอก (ผมเล่นแต่ 1/144 น่ะนะ) สำหรับคนที่ไม่ค่อยคุ้นกับพวกชิ้นส่วนเยอะๆ อย่างผมก็มึนๆ เหมือนกัน แบบว่าปกติทำ 1/144 ชิ้นส่วนมันมีไม่ค่อยเยอะน่ะครับ ฮะๆ
-สัดส่วน 10/10
สำหรับ Exia แล้ว ผมว่า MG นี่ล่ะรูปทรงสวยที่สุดแล้วครับ ดีกว่าทุกเกรดที่ออกมาก่อนหน้านี้เลยทีเดียว
-ชิ้นส่วน 9/10
มีรอยบุ๋มบ้างเล็กๆ น้อยๆ ถ้าไม่นับพวกชิ้นจุกจิกที่มีเยอะๆ ก็แบ่งชิ้นมาให้ทำงานได้ง่ายมากเลยครับ ตัวนี้ผมไม่มีอุดขัดผ่ากลางเลยนะครับ
-การขยับ 9/10
ทำมาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว จุดขยับมีเยอะและขยับได้กว้าง แต่ในบางอารมณ์ช่วงเอวก็ดูจะโยกๆ อยู่หน่อยเหมือนกันนะ ส่วนการขยับก็ค่อนข้างแข็งแรงครับ ยิ่งทำสี ข้อต่อก็จะฝืดขึ้นอีกหน่อยนึงด้วยล่ะนะ
-ของแถม 10/10
ครบครันครับสำหรับ MG กล่องนี้ แถมยังมีชิ้นที่ชุบเงินมาให้ด้วย และสำหรับจุดเด่นที่ชิ้นใสและหลอดไฟ LED ก็ทำออกมาได้ดีด้วย
-ความคุ้มค่า 8/10
สำหรับ Ignition Mode กล่องนี้ ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ทำสี ก็คงเล่นได้อย่างสนุกล่ะครับ มีชิ้นส่วนมาให้เปลี่ยนมากมาย แต่สำหรับคนที่ทำสีแล้ว ผมว่ากล่องธรรมดาก็น่าจะพอแล้วล่ะมั้งครับ ทำสีแล้ว จะให้มาถอดๆ เปลี่ยนๆ ชิ้นส่วนให้สีถลอกกันเล่นก็คงใช่ที่ใช่ไหมล่ะครับ ฮะๆ แต่ถ้าอยากเก็บ 1/100 Exia ล่ะก็ ผมก็แนะนำกล่องนี้เลยครับ คุ้มค่าแก่การเก็บแน่ๆ
ขอบคุณที่เข้ามาชมกันมากๆ เลยนะครับ