Tiger & Bunny เป็นเรื่องราวของเหล่าฮีโร่ ที่แตกต่างจากฮีโร่ในอดีตทั่วไป เพราะฮีโร่ในยุคนี้กลายเป็นอาชีพเหมือนพนักงานที่สังกัดอยู่กับบริษัทและก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแค่ผดุงความยุติธรรมอย่างเดียวอีกต่อไป ฮีโร่ ทุกคนจะมีสังกัดของตัวเองอยู่ หากอยู่ในสังกัดไหน ก็จะต้องใส่สูทเฉพาะที่สังกัดนั้นๆจัดให้เพื่อเป็นการโฆษณาโปรโมทสังกัดไปพร้อมๆกับการทำภารกิจช่วยชีวิตผู้คนทุกภารกิจของ เหล่าฮีโร่จะถูกเผยเเพร่ทาง HERO TV ฮีโร่ทีวีเป็นรายการที่ได้รับความนิยมอย่างมากทุกๆครั้งที่ฮีโร่เเต่ละคนสามารถจับกุมคนร้ายได้ จะได้คะเเนน "Hero Points"ทุกครั้งที่ฮีโร่ได้คะเเนน Hero Points สูงขึ้น ก็จะเป็นการโปรโมทสปอนเซอร์ด้วยเช่นกันฮีโร่คนใดที่ได้คะเเนน "Hero Points"มากที่สุดจะได้ตำเเหน่ง "King of Heroes"
ในเรื่องอนิเมเรื่องนี้จะกล่าวถึง ฮีโร่ซึ่งที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้วแต่กลับต้องมาทำงานเป็นคู่หูกัน นั่นก็คือ Wild Tiger (ไวล์ไทเกอร์)หรือโคเท็ตสึ ที คาบุรางิ และ Bunny (บันนี่) หรือ บาร์นาบี้ บรูคส์ จูเนียร์ 2 หนุ่ม ที่ต้องมาทำงานเป็นคู่หูกัน พวกเขาก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยลงรอยกันซักเท่าไหร่ แล้วฮีโร่คู่นี้จะทำงานไปด้วยกันรอดหรือไม่ โปรดติดตามได้ใน Tiger & Bunny
------------------------------
- Wild Tiger -
ฮีโร่รุ่นเก๋าผู้มากด้วยประสบการณ์ในการเป็นฮีโร่มากที่สุดแต่กลับได้รับความนิยมน้อยที่สุดในบรรดาฮีโร่ เขามักจะทำก่อนคิดทีหลัง เมื่อทำภารกิจจับผู้ร้ายทีไร ก็พังของชาวบ้านเป็นเเถบๆ แถมบริษัทเก่าปิดตัวลงต้องย้ายมาทำงานกับบริษัทใหม่กับเจ้านายใหม่คู่หูใหม่ซึ่งไม่ลงรอยกัน
-Kotetsu T. Kaburagi -
โคเท็ตสึ ที คาบุรางิ คุณลุงหัวโบราณมีลูกสาววัยรุ่นอยู่หนึ่งคน เเต่ฝากไว้ให้เเม่ตนเองเลี้ยงเพราะว่าตัวเองต้องวุ่นกับการเป็นฮีโร่ทำให้ไม่มีเวลาเจอลูกสาวแถมยังปิดความลับที่ตัวเองเป็นฮีโร่ออกทีวีอยู่ทุกวันกับลูกสาวอีกด้วย
-------------------
ลุยกันเลย บันนี่จัง!
ได้เลย ลุง!
ได้เลย ลุง!
ชุดโครงด้านในท่อนบนไม่เท่าไหร่ แต่ท่อนล่างนี่สิ แห้งสนิท
สวมเกราะที่แขนขาเปรียบเทียบดู ความล่ำต่างกันเห็นๆ
พอสวมเกราะครบทั้งตัว จะหล่อไปไหน!!?
ด้านหลัง สปอยล์ตอนจบ ใครอยากรู้ไปดูกันเอาเอง
เครื่องยิงลวดที่อยู่ในสนับแขน เอามาพับมาถือได้เหมือนในอนิเม
(แต่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนเอานะ)
แขนขวา Good Luck Mode ใหญ่โคตรๆ
แต่ก็ทำให้ข้อต่อรับน้ำหนักไม่ไหว ถ้าจะจัดท่าต้องพึ่งฐานละนะ
ซึ่งตรงนี้บันไดงกมาก น่าจะแถมฐานมาให้ 2 อัน ดันให้มาอันเดียว บุ่ยๆ
เฟซโอเพ่น เปิดหน้าได้ด้วย แต่แถมหน้ามาแบบเดียว ถ้าแถมหลายๆ อารมณ์ละ เจ๋งเลย!
สำหรับการทำงานกับพลาโมกล่องนี้ ชิวๆ มากครับ เพราะแยกชิ้นส่วนมาดีอยู่แล้ว จุดบังพ่นก็น้อย
ติดแค่ตรงที่ว่าเนื่องจากชิ้นส่วนมีขนาดใหญ่ รอยบุ๋มของพลาสติกก็มีเยอะเป็นของคู่กัน ยิ่งผมเลือก
ทำสีแบบมันด้วยมันยิ่งเห็นชุดเลยต้องนั่งขัดกันสนุกเลย ส่วนสีที่ใช้ก็มีดังนี้ครับ
สีขาว - ขาว (ไกอา)
สีเขียว - เยลโล่วกรีน (กันเซ่)
สีดำ - มิดไนท์บลู (กันเซ่)
สีเงิน - ซิลเวอร์ (กันเซ่)
สีเหลือง เคลียร์เหลือง (กันเซ่)
พ่นด้วยเคลียร์มันของ SNP ก่อนตัดเส้น แต่ผมดันลืมไป ว่าสี SNP มันโดนน้ำมันไฟแช็คละลายได้...
โชคดีที่ด่างไม่เยอะ เลยพอซ่อมๆ กล้อมแกล้มกันไปได้ละน่า รู้งี้พ่นเคลียร์ให้หนาๆ หน่อยก็ดี
หลังจากนั้นก็ ติดดีคอลที่มีมาให้ในกล่อง พ่นทับปิดงานด้วยเคลียร์มันของกันเซ่เป็นอันจบงานครับ
ส่วนของข้อเสียที่หมึกจ๋าเห็นชัดที่สุดในโมเดลกล่องนี้คือ...
คนที่ทำสีเองอย่างหมึกนี่คงไม่เท่าไหร่ แต่คนต่อดิบน่ะ เห็นใจบ้างไหม!
ให้สติ๊กเกอร์สีเหลืองมา มันจะสวยสู้ชิ้นใสได้เรอะ!? สีเขียวยังให้มาเป็นชิ้นเคลียร์เขียวได้เลยแท้ๆ
ให้สติ๊กเกอร์สีเหลืองมา มันจะสวยสู้ชิ้นใสได้เรอะ!? สีเขียวยังให้มาเป็นชิ้นเคลียร์เขียวได้เลยแท้ๆ
พี่เสือเฟล....
ใครชอบเมะเรื่องนี้ แนะนำให้จัดซะ อย่าให้เสียครับ ตัวโมเดลทำออกมาดีมากๆ
ต่อดิบๆ ก็สวยแล้วนะ จุดขยับก็ดี ตัวใหญ่เต็มไม้เต็มมือด้วย ราคาก็ไม่แรงเหมือนฝั่งกันดั้ม
ปิดท้ายด้วยรูปพี่เสือ กับ น้องต่าย
Credit : เรื่องย่อจาก http://www.sisterme.net ,รูปประกอบไปดูดมาจากเวบดันโบรุ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกันครับ ครั้งหน้าทำน้องต่ายต่อแน่นอน มีพี่เสือ แล้วจะไม่มีน้องต่ายได้ไงกัน!
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น